การขอวีซ่าเชงเก้น Schengen Visa
Sunday, 23 March 2014
แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอิตาลี
การขอวีซ่าเชงเก้น Schengen Visa
Saturday, 22 March 2014
เที่ยวฝรั่งเศส France ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ - รีวิวทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศส
Bonjour ทริปเที่ยวปารีสสไตล์ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ต่อจากอิตาลี อาจเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจัดทริปอิตาลี - ฝรั่งเศส ต่อกันเลย....
Day 8 - วันนี้เราจะไปกันที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ในปารีส ส่วนใหญ่จะมีร้านรวงให้จับจ่ายใช้สอยตามทางเดินเสมอ ดังนั้นเราจึงเลือกที่จะเดินและแวะชมร้านเหล่านี้ไปด้วย เนื่องจากเวลาเรามีมากพอในปารีส เราจึงอยากเห็นการใช้ชีวิตของชาวปารีสด้วย พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Musee du Louvre) ปัจจุบันพระราชวังเก่าแก่แห่งนี้ มีสภาพเป็นพิพิธภัณฑ์ ที่สำคัญ และใหญ่โตที่สุดในปารีส ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นที่เก็บรักษาวัตถุโบราณต่างๆที่มีค่า และมีชื่อเสียงของโลก เช่น ภาพเขียน ลา ชาก็อง (La Jaconde) หรือภาพโมนาลิซ่า อันเป็นภาพวาดของ เลโอนาร์ด เดอ วินซี (Leonard de Vinci) จิตรกรและสถาปนิกชาวอิตาเลียน และวัตถุ โบราณซึ่งเป็นศิลปะอันล้ำค่าจากชาติต่างๆที่ฝรั่งเศสเคยมีอิทธิพล ปกครองมาในอดีต ส่วนใหญ่ได้มาจากตะวันออกกลางและ อาณานิคมจากประเทศในเอเซีย เช่น รูปซาโม-ทราซ (La Victoire de Samothrace) และรูปปั้นภาพเทพธิดาวีนัส (Venus de Milo) เป็นต้น
Day 9 - วันนี้เราจะไปเดินเล่นย่านช็อปปิ้ง ประตูชัย (Arc de Triomphe) ถนนซองป์เอลิเซ่และจตุรัสกงกอร์ด (Place de la Concorde) มองผ่านประตูชัยเล็กแห่งสวนตุยเลอรี่ (Jardin des Tuileries) มีหลายสิ่งที่พบเห็นได้ตามข้างถนนเกือบทุกสายในกรุงปารีส ร้านขายหนังสือพิมพ์และของที่ระลึก ร้านส่วนใหญ่ออกแบบคล้ายกันและมีหลังคาเป็นโดมเล็กๆ เราเดินเข้าออกร้านเกือบทุกร้านเพราะเสื้อผ้าสวยๆน่าซื้อไปซะหมด แถมยังถูกกว่าบ้านเราอีกนะโชคดีที่ได้ไปเที่ยวในช่วงเดือนคริสมาสต์ เพราะนอกจากบ้านเรือนร้านค้าจะตกแต่งร้านต้อนรับคริสมาสต์อย่างสวยงามกันแล้ว เรายังได้มีโอกาสเดินเล่นตลาด คริสมาสต์อีกด้วย Christmas Market ตลาดคริสต์มาสที่ ถนนช็องเซลิเซ ซึ่งทางเมืองปารีส มีการตกแต่งไฟทั้งสองฝั่งของถนน จากประตูชัย (Arc de Triumph) ไปจนถึง Place de la Concorde กันเลยทีเดียว สวยมากๆ
เที่ยวอิตาลี Italy ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ - รีวิวทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศส
ทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศสของเราเริ่มแรกจะบินจากกรุงเทพเป้าหมายแรกคือ อิตาลี หลังจากนั้นบินไปฝรั่งเศส และบินกลับมาอิตาลี ขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพ มาดูทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศสสไตล์ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์กันค่ะ
Day 1 - เดินทางถึงโรมแต่เช้า นั่ง Leonardo Express ไปยัง Roma Termini เพราะโรงแรมที่เราจองไว้อยู่ในโซนนั้น หลังจากเช็คอินเสร็จเรียนร้อยแล้ว เราก็หาแผนที่เพื่อเดินท่องเที่ยวภายในโรม ด้วยความที่โรมเป็นเมืองที่มีบ้านเรือนเก่าๆ และมีศิลปะให้ดูชมตลอดทาง เราจึงเลือกที่จะเดินชมเมืองและเก็บภาพกันไปเรื่อยๆ แต่เป้าหมายหลักอันแรกที่เราจะไปคือ โคลอสเซียม ระหว่างทางที่เดินไปถึง เราก็เห็นว่าจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ วันนี้หมดไปกับการเดินชมโคลอสเซียม กลับไปพักเอาแรงก่อน เรายังต้องเที่ยวอีกหลายวันครับ
Day 2 - ยังมีอีกหลายมุมในโรมที่เรายังไม่ได้ไป ดังนั้น วันนี้หลังจากกินอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว เราก็รีบออกจากโรงแรมแล้วเดินสำรวจในเมืองโรมอีกครั้ง อ้อ แล้วเราก็ไม่ลืมจะไปแวะน้ำพุเทรวี เพราะเราอยากเห็นน้ำพุนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน น้ำพุเทรวี เชื่อกันว่า ถ้าใครมาถึงอิตาลีแล้วจะต้องมาทำการอธิษฐาน แล้วหันหลังโยนเหรียญลงไป ซึ่งวิธีการโยนเหรียญเค้าว่ากันว่าถ้าจะให้เห็นผล ต้องหันหลังให้น้ำพุ แล้วโยนเหรียญด้วยมือขวา ผ่านไปทางด้านไหล่ด้านซ้าย เชื่อกันว่า "เราจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง" ถ้าหากเราโยนเหรียญลงในน้ำพุแห่งนี้ นอกเหนือจากแวะชมน้ำพุที่สวยงามแล้ว ยังมีร้านรวงรอบๆน้ำพุที่ขายของที่ระลึก อาหารอิตาเลี่ยน รวมถึงของหวานต่างๆ เค้ก ไอติม เราเลือกที่จะกินเจลาโตทั้งๆที่อากาศต่ำกว่า 10 องศา เค้าลือกันว่าไอติมอร่อย แล้วก็เดินเล่นต่อสักพัก ในเมืองโรมมีที่เดินเล่นช็อปปิ้งมากมาย ทำให้เวลาเดินผ่านไปเร็วมาก เรากลับโรงแรมกันตอนหนึ่งทุ่มเพื่อจะพักและพอแล้วสำหรับวันนี้
Saturday, 7 July 2012
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ Switzerland ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทางเช็คหนังสือเดินทาง พร้อมทำการขอวีซ่า
ค่าประกันอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทางค่าสำรองหมายเลขที่่นั่งบนรถไฟในบางเส้นทาง (หากจำเป็น)
แชร์ประสบการณ์การขอวีซ่าท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์
มาดูวิธีการยื่นวีซ่าสำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ชึ่งตั้งแต่วันที่ 01 มีนาคม 2555 TLScontact ได้รับมอบหมายจากสถานทูตสวิสฯประจำประเทศไทย ให้เป็นตัวแทนในการทำนัดหมาย และรับเอกสารต่างๆในการยื่นวีซ่าสวิตเซอร์แลนด์
ขั้นที่ 1: ก่อนอื่นก็จะต้องลงทะเบียนกับทาง TLS Contact ก่อนค่ะ เพื่อแจ้งว่าเราต้องการสมัครวีซ่าประเภทไหน ตามลิงค์เลยค่ะ https://www.tlscontact.com/th2ch/page.php?pid=track_passport หลังจากนั้นเราจะได้รายการเอกสารที่เราจะต้องเตรียมว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นก็เป็นขั้นตอนต่อไปค่ะ
ขั้นที่ 2: เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดและมักจะสร้างความปวดหัวให้ผู้สมัครวีซ่าเสมอๆ ก็คือการเตรียมเอกสารค่ะ เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับ Visitor visa, guarantor registered with the Embassy จะแบ่งเป็น 2 ส่วนนะคะ คือ ส่วนที่เป็นของผู้สมัคร และส่วนของผู้ค้ำประกัน ดูรายละเอียดจากสถานฑูตได้ตามลิงค์ค่ะ http://www.eda.admin.ch/etc/medialib/downloads/edactr/tha.Par.0438.File.tmp/visa%20visitor_garant%20BKK%20(th)_Schengen.pdf
Friday, 6 July 2012
มาหาวิธีป้องกัน Jet Lag เวลาไปเที่ยวยุโรป/อเมริกากัน
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนเลยค่ะว่า เจอกับตัวเองจริงๆ อาการ Jet Lag เมื่อตอนเดินทางไปอเมริกาค่ะ ครั้งนั้น เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ไป แอลเอ (L.A.) ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของเราไป 12 เขตแบ่งเวลา(ไทย UTC +7, สหรัฐอเมริกา UTC -5 ) และมีเวลาช้ากว่าเรา 12 ชั่วโมง เวลาเที่ยงคืนที่แอลเอ จะเป็นเวลาเที่ยงวัน ที่กรุงเทพฯ ร่างกายของเรา ที่ยังคุ้นเคย กับ เวลาของเมืองไทยอยู่ ก็จะทำงานตาม เวลาในเมืองไทย จึงจะไม่รู้สึกง่วงเลย พยายามจะนอนก็นอนไม่หลับเพราะยังไม่ใช่เวลานอน พยายามนอนก็นอนได้เต็มที่แค่ 1 ชม. หลังจากนั้นทำไงก็นอนไม่หลับ ดูหนัง เล่นอินเทอร์เน็ต กินให้อิ่มกะให้ง่วงแล้ว ก็ยังไม่หลับ พอเวลาเที่ยงหรือบ่ายๆที่เอลเอ ก็จะง่วงนอนมาก มันคงเกิดจากการที่่ร่างกายของเราที่ยังคงคุ้นกับเวลาเดิมอยู่ปรับตัวไม่ทันค่ะ
Wednesday, 6 June 2012
เที่ยวสิงค์โปร Singapore ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์
ก่อนอื่นเลยต้องมี PASSPORT/หนังสือเดินทาง ซึ่งจะต้องมีอายุเหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (นับจากวันที่เดินทางกลับจริง) อ่ะรีบกลับไปเปิดดูก่อนนะค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ทำหนังสือ ดูได้จากที่นี้น่ะค่ะ การทำหนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับคนไทย การเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ หากไม่เกิน 30 วัน จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องยื่นเรื่องขอทำวีซ่า Visa แต่ แต่ แต่ หากต้องการอยู่เกิน 30 วัน สามารถขอวีซ่า Visa สถานเอคอัครราชทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย
มาดูกำหนดการคร่าวๆ ของทริปไปเที่ยวสิงค์โปร Singapore ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ค่ะ
04 Dec: จากกรุงเทพ ด้วยสายการบิน Singapore Airlines เดินทางถึงสนามบิน Changi (อ่านว่าชางฮี) ของสิงคโปร์
05 Dec: เดินเล่นช็อปปิ้งบนถนน Orchard มีร้าน brandname หลายต่อหลายยี่ห้อให้เลือกซื้อกัน เที่ยว Downtown แวะ Merlion ถ่ายรูปชมความงามยามค่ำคืน
07 Dec: Universal Studio ใช้เวลาทั้งวัน แวะดูน้ำพุ Song of the sea
08 Dec: เดินข้ามไป Marina bayขึ้นไปชมตึก มีcasioให้เข้าฟรีด้วย
10 Dec: เดินทางกลับ กรุงเทพ ออกจากสนามบิน Changi ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
Sunday, 20 May 2012
เที่ยวอเมริกา LA-San Francisco ด้วยตัวเอง
หลายๆคนกำลังกังวลเรื่องเงินใช่ไหมค่ะ ไม่ยากค่ะ ลองคำนวณเอาว่าตั๋วไป-กลับประมาณกี่บาท และทำค่าใช้จ่ายประมาณการของแต่ละวันว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ง่ายมากๆค่ะ แถมยังเป็นการเตรียมตัวไปในตัวอีกด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ค่าโรงแรม (ซึ่งปกติแล้วมักจะมีอาหารเช้าให้ด้วย) ค่าอาหารกลางวัน -อะไรก็ได้ค่ะ ง่ายๆ ลองคิดดูว่าเมืองนอกส่วนใหญ่เค้าจะทาน เบอเกอร์กัน ลองหาตามอินเตอร์เน็ตดูว่า ราคาเบอเกอร์มื้อนึงประมาณกี่บาท ค่าอาหารเย็น ค่าน้ำ สำคัญมากค่ะ ค่าเดินทาง รถไฟใต้ดิน รถเมล์ ซื้อเที่ยวเดียวหรือหลายเที่ยวยังไงคุ้มกว่า รายละเอียดปลึกย่อยขนาดนี้ต้องทำการบ้านนิดนึงนะคะ เพราะเราไม่สามารถซื้อตามคนอื่นได้หมดค่ะเพราะไลฟ์สไตลืแต่ละคนต่างกันออกไป อย่าลืมเผื่อบั๊ดเจ็ทไว้สำหรับค่าช็อปปิ้งด้วยนะคะ และซื้อของใช้จำเป็นเช่นผ้าอนามัย ยารักษาโรคเบื้องต้น (เนื่องจากอเมริกา เราจะซื้อได้แต่ยาแก้ปวดพื้นฐานในซุปเปอร์ค่ะ ถ้าเฉพาะทางจริงๆต้องให้แพทย์เป็นคนจ่ายยาให้ค่ะ) หลังจากมีหนังสือเดินทาง (Passport) และได้วีซ่าอเมริกาแล้วก็...
มาดูกำหนดการคร่าวๆ ของทริปไปเที่ยวอเมริกา LA - Sanfrancisco แบบไม่ง้อทัวร์ ค่ะ
04 Dec: จากกรุงเทพ ด้วยสายการบินเดลต้าแอร์ เดินทางถึงสนามบิน นาริตะ รอเปลี่ยนเครื่อง สองชั่วโมง เดินทางต่อจากนาริตะบินไปสนามบิน LAX ถึงเมือง Los Angeles
05 Dec: ถึงเมือง Los Angeles
06 Dec: เที่ยว Downtown Hollywood นอน LA
07 Dec: Universal Studio ใช้เวลาทั้งวัน
08 Dec: เดินเล่นเพลินๆ ช็อปปิ้งใน LA แวะ China Town
09 Dec: ออกจาก LA บินไป Sanfrancisco
10 Dec: เดินเล่นชิลๆทั่ว Downtown ช็อปปิ้ง
11 Dec: นั่งรถราง ไป Golden gate
12 Dec: เดินชิลๆ Lombard Stree แวะ Pier 39
13 Dec: เดินทางกลับ กรุงเทพ ออกจาก Sanfrancisco บินไป สนามบินนาริตะ
14 Dec: ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
เริ่มออกเดินทางเช้าตรู่ของวันที่ 4 Dec 2010 Suvarnabhumi Airport ตอนเข้าเช็คอินแจ้งเจ้าหน้าที่ขอเลือกนั่งริมทางเดินค่ะ เพื่อความสะดวกในการเข้าออกห้องน้ำค่ะ เนื่องจากเดินทางไกล ช่วงแรกจาก Bangkok International Airport (BKK) ไป Narita International Airport (NRT)ค่ะ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงท่าอากาศยานแห่งชาติของญี่ปุ่น นาริตะ ค่ะ... ก็ลงไป Transit ซึ่งเราก็ยังคงใช้เครื่องลำเดิมบินไปยัง LAX ค่ะ... ระหว่างรอก็เดินสำรวจสนามบินเค้าค่ะ... งวดนี้นั่งนานหน่อย 10 ชั่วโมงกว่าๆ หนะค่ะ... อยู่บนเครื่องก็ทานอาหารอย่างเดียวเลยค่ะ มีเสริฟตลอด ดูหนังบ้าง หลับบ้าง ผ่านไป 10 ชั่วโมงหน่อยๆเครื่องก็ร่อนลงสู่ท่าอากาศยานที่ Los Angeles (LAX)อย่างปลอดภัยค่ะ
มาดูกำหนดการคร่าวๆ ของทริปไปเที่ยวอเมริกา LA - Sanfrancisco แบบไม่ง้อทัวร์ ค่ะ
04 Dec: จากกรุงเทพ ด้วยสายการบินเดลต้าแอร์ เดินทางถึงสนามบิน นาริตะ รอเปลี่ยนเครื่อง สองชั่วโมง เดินทางต่อจากนาริตะบินไปสนามบิน LAX ถึงเมือง Los Angeles
05 Dec: ถึงเมือง Los Angeles
06 Dec: เที่ยว Downtown Hollywood นอน LA
07 Dec: Universal Studio ใช้เวลาทั้งวัน
08 Dec: เดินเล่นเพลินๆ ช็อปปิ้งใน LA แวะ China Town
09 Dec: ออกจาก LA บินไป Sanfrancisco
10 Dec: เดินเล่นชิลๆทั่ว Downtown ช็อปปิ้ง
11 Dec: นั่งรถราง ไป Golden gate
12 Dec: เดินชิลๆ Lombard Stree แวะ Pier 39
13 Dec: เดินทางกลับ กรุงเทพ ออกจาก Sanfrancisco บินไป สนามบินนาริตะ
14 Dec: ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
เริ่มออกเดินทางเช้าตรู่ของวันที่ 4 Dec 2010 Suvarnabhumi Airport ตอนเข้าเช็คอินแจ้งเจ้าหน้าที่ขอเลือกนั่งริมทางเดินค่ะ เพื่อความสะดวกในการเข้าออกห้องน้ำค่ะ เนื่องจากเดินทางไกล ช่วงแรกจาก Bangkok International Airport (BKK) ไป Narita International Airport (NRT)ค่ะ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงท่าอากาศยานแห่งชาติของญี่ปุ่น นาริตะ ค่ะ... ก็ลงไป Transit ซึ่งเราก็ยังคงใช้เครื่องลำเดิมบินไปยัง LAX ค่ะ... ระหว่างรอก็เดินสำรวจสนามบินเค้าค่ะ... งวดนี้นั่งนานหน่อย 10 ชั่วโมงกว่าๆ หนะค่ะ... อยู่บนเครื่องก็ทานอาหารอย่างเดียวเลยค่ะ มีเสริฟตลอด ดูหนังบ้าง หลับบ้าง ผ่านไป 10 ชั่วโมงหน่อยๆเครื่องก็ร่อนลงสู่ท่าอากาศยานที่ Los Angeles (LAX)อย่างปลอดภัยค่ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)