เตรียมตัวไปเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ง้อทัวร์

Saturday 22 March 2014

เที่ยวอิตาลี Italy ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์ - รีวิวทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศส


ทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศสของเราเริ่มแรกจะบินจากกรุงเทพเป้าหมายแรกคือ อิตาลี หลังจากนั้นบินไปฝรั่งเศส และบินกลับมาอิตาลี ขึ้นเครื่องกลับมากรุงเทพ มาดูทริปยุโรปอิตาลี-ฝรั่งเศสสไตล์ไปเองได้ไม่ง้อทัวร์กันค่ะ


Day 1 - เดินทางถึงโรมแต่เช้า นั่ง Leonardo Express ไปยัง Roma Termini เพราะโรงแรมที่เราจองไว้อยู่ในโซนนั้น หลังจากเช็คอินเสร็จเรียนร้อยแล้ว เราก็หาแผนที่เพื่อเดินท่องเที่ยวภายในโรม ด้วยความที่โรมเป็นเมืองที่มีบ้านเรือนเก่าๆ และมีศิลปะให้ดูชมตลอดทาง เราจึงเลือกที่จะเดินชมเมืองและเก็บภาพกันไปเรื่อยๆ แต่เป้าหมายหลักอันแรกที่เราจะไปคือ โคลอสเซียม ระหว่างทางที่เดินไปถึง เราก็เห็นว่าจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ วันนี้หมดไปกับการเดินชมโคลอสเซียม กลับไปพักเอาแรงก่อน เรายังต้องเที่ยวอีกหลายวันครับ

Day 2 - ยังมีอีกหลายมุมในโรมที่เรายังไม่ได้ไป ดังนั้น วันนี้หลังจากกินอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว เราก็รีบออกจากโรงแรมแล้วเดินสำรวจในเมืองโรมอีกครั้ง อ้อ แล้วเราก็ไม่ลืมจะไปแวะน้ำพุเทรวี เพราะเราอยากเห็นน้ำพุนี้ทั้งกลางวันและกลางคืน น้ำพุเทรวีชื่อกันว่า ถ้าใครมาถึงอิตาลีแล้วจะต้องมาทำการอธิษฐาน แล้วหันหลังโยนเหรียญลงไป ซึ่งวิธีการโยนเหรียญเค้าว่ากันว่าถ้าจะให้เห็นผล ต้องหันหลังให้น้ำพุ แล้วโยนเหรียญด้วยมือขวา ผ่านไปทางด้านไหล่ด้านซ้าย เชื่อกันว่า "เราจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง" ถ้าหากเราโยนเหรียญลงในน้ำพุแห่งนี้ นอกเหนือจากแวะชมน้ำพุที่สวยงามแล้ว ยังมีร้านรวงรอบๆน้ำพุที่ขายของที่ระลึก อาหารอิตาเลี่ยน รวมถึงของหวานต่างๆ เค้ก ไอติม เราเลือกที่จะกินเจลาโตทั้งๆที่อากาศต่ำกว่า 10 องศา เค้าลือกันว่าไอติมอร่อย แล้วก็เดินเล่นต่อสักพัก ในเมืองโรมมีที่เดินเล่นช็อปปิ้งมากมาย ทำให้เวลาเดินผ่านไปเร็วมาก เรากลับโรงแรมกันตอนหนึ่งทุ่มเพื่อจะพักและพอแล้วสำหรับวันนี้

Day 3 - วันนี้เรามีแผนจะเดินทางจากโรม ไป ฟลอเรนซ์ Roma - Firenze ที่ใครต่อใครก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ฟลิเรนซ์มีเสน่ห์เหลือเกิน เราจองรถไฟ Trenitalia ออกจากโรมาตอน 11:50 น. และจะไปถึงฟิเรนซ์ตอน 13.22 น. รถไฟชั้น 2 บ้านเค้าสะอาดสะอ้านมาก เหมือนเป็น VIP บ้านเรา ที่นั่งสบายปรับได้แถมยังมีไฟให้อ่านหนังสือด้วย แล้วยังสามารถชาร์จ ไอโฟน ไอแพดในรถไฟได้ด้วย ใครที่ขาดอินเตอร์เนทไม่ได้ รับรองคุณจะหลงรักรถไฟที่อิตาลี่เพราะคุณสามารถใช้ wifi เค้าได้ด้วยนะ ไม่พลาดการติดต่อกับโลกภายนอกแน่นอน  พอไปถึงเราเช็คอินโรงแรมแล้ว ก็ออกไปเที่ยว Duomo เดินเล่นรอบๆเมือง ที่ฟลอเรนซ์แตกต่างจากโรมตรงที่เป็นเมืองที่เน้นแฟชั่น การท่องเที่ยว ร้านอาหาร เป็นเมืองเล็กๆที่สะอาด ผู้คนแต่งตัวดี มีระเบียบในการใช้รถใช้ถนน สวยมากๆ เดินเล่นในฟลอเรนซ์ จนหมดวันช็อปปิ้งเสื้อผ้าแบรนด์ที่คนไทยแบบเราชอบ แค่นี้ก็แฮปปี้มากๆแล้วสำหรับหนึ่งวันในฟลอเรนซ์ 

Day 4 - เรายังคงอยู่ที่เมือง ฟลอเรนซ์ แต่แผนเราวันนี้คือ เดินทางไป Pisa, Campo dei Miracoli พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง หอเอนแห่งเมืองปิซา เป็นหอคอยหินอ่อน สูง 54 เมตร (181 ฟุต) มี 8 ชั้น สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 1893 (ค.ศ. 1350) ใช้เวลานานถึง 176 ปี เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลก ความน่ามหัศจรรย์อีกอย่าง คือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้เริ่มเอียง แต่ไม่ถึงกับพังทลายลงมา เพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วง เมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มยังทรงตัวอยู่ได้ เมื่อสร้างเสร็จ ยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร( 14 ฟุต)
ถือว่าเป็น symbol ของอิตาลีที่ใครๆมาก็ต้องมาดูให้ได้ 

Day 5 - หลังจากเที่ยวที่ ฟลอเรนซ์มา 2 วัน เราก็พร้อมที่จะเดินทางไป Venice เมืองเวนิส (Venice) หรือ เมืองเวเนเซีย (Venezia) หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่รู้จักกันในด้านของความเจริญรุ่งเรืองทางประวัติศาสตร์และศิลปะ เมืองเวนิส ถูกสร้างขึ้นจากการเชื่อมหมู่เกาะขนาดเล็กประมาณ 118 เกาะเข้าด้วยกันในบริเวณทะเลสาบเวนิเทีย เราเดินทางไปเวนิสด้วยรถไฟ Trenitalia ตอนที่จองได้เราจองคนละ 45 euro ซึ่งถือว่าค่อนข้างแพงสำหรับระยะทางและจำนวนวันที่เราจะอยู่แค่วันเดียว แต่ไหนๆมาแล้วก็ต้องไปให้ถึง รถไฟพาเราข้ามเกาะมายังเวนิส ตอนที่รถไฟวิ่งข้ามสะพาน แล้ววิวด้านข้างเป็นทะเลสาปสวยมากๆ พอไปถึง เราก็เช็คอินโรงแรมแล้วหาอะไรทานนิดหน่อยก่อนจะนั่งเรือไปชมเมืองโดยทั่ว วันนั้นอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก จุดหมายเราคือไปเดินเล่นที่ จตุรัสซานมาร์โค พอไปถึง ถ่ายรูปได้แค่ไม่กี่ภาพ ต้องขอยอมแพ้ เพราะลมพัดมาหนาวเย็นเกินกว่าที่เราจะฝืนเดินต่อไปได้ เราจึงเปลี่ยนแผนเดินกลับโรงแรม แต่ในระหว่างทางเดินกลับ มีร้านให้เราเลือกชมมากมายตลอดทาง และผู้คนก็จับจ่ายใช้สอยกันคึกคัก ในระหว่างทางเดินตามตรอกซอกซอย มีอะไรให้น่าแวะน่าค้นหาอยู่ตลอดเวลา พอุถึงโรงแรม ต้องทานยานอน เนื่องจากลมและอากาศที่หนาวเย็นในเวนิสน่าจะทำเราป่วยซะแล้ว เจอกันในวันพรุ่งนี้

Day 6 - ออกจาก Venice ไปมิลาน เราจองรถไฟ Trenitalia ไว้ตอนสายๆ มิลาน (Milan) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่ามิลาโน่ (Milano) เป็นเมืองหลวงทางแฟชันของโลกแข่งกับปารีสในประเทศฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของอิตาลี นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ ขอไปดูให้เห็นกับตาสักครั้ง พอรถไฟไปถึงมิลานแล้ว เห็นความแตกต่างเป็นอย่างมากระหว่างสองสามเมืองในอิตาลีที่เราไปมา กับมิลาน มิลานจริงๆเป็นเมืองที่เจริญ และใหญ่กว่าเมืองอื่นๆ เราเลือกที่จะแวะชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม (Duomo) ชื่อนี้ไว้ใช้เรียกมหาวิหารประจำเมือง แทบจะมีดูโอโม่ทุกเมืองที่สำคัญ ๆ เลย น่าจะเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของคนในเมือง ดูโอโม่ที่เมืองนี้สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก หลังจากถ่ายรุปกันพอสมควร เราก็เดินสำรวจและหาอาหารกลางวันทาน ซึ่งจะมีแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่คือ วิตโตรีโอ เอมานูเอล ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน จริง ๆ แล้ว มิลานไม่ใช่เมืองท่องเที่ยว แต่เป็นเมืองธุรกิจมากกว่า คนที่มาเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจหรือนักช้อปตัวยงมากกว่า 

Day 7 - หนึ่งวันก็เพียงพอแล้วสำหรับเมืองมิลาน เราเตรียมตัวออกเดินทางไปยังสวรรค์ของการช็อปปิ้ง นั่นก็คือปารีส เมืองที่มีเสน่ห์และมนขลังที่สุดในยุโรป หลังจากหามาหลายวิธีเราจึงพบกว่า การบินไปยังปารีสเป็นวิธีที่สะดวกสบายและประหยัดเงินมากที่สุด เราเลือกที่จะบินโดย Easyjet  จากสนามบิน Milan Malpensa ซึ่งก็เหมือนกันกับ Air asia บ้านเราแต่ต้องอย่าลืมซื้อน้ำหนักกระเป๋านะ เพราะว่าเวลาเราไปเที่ยว ต่างวประเทสกระเป๋าเราจะของเยอะมากกว่าเดินทางในประเทศ บางคนลืมซื้อต้องไปซื้อข้างหน้าเคาน์เตอร์ซึ่งจะแพงมากค่ะ เราซื้อเลยตั้งแต่ตอนจองคนละ 40 kiloเผื่อเหลือเผื่อขาดค่ะ ราคาก็ตกที่ประมาณ $90 ต่อคนค่ะคุ้มมากๆ เราเลือกที่จะพักในโรงแรมที่ใกล้กับหอไอเฟลที่สุด เพราะชอบหอไอเฟลมาก แล้วโรงแรมที่เราจองไว้ก็ใกล้จริงๆ ทำเลดีมาก ใต้โรงแรมมีซุปเปอร์มาเก็ต ร้านอาหาร ให้เลือกหลากหลาย คุ้มมากๆค่ะ ราคาต่อคืนตกประมาณ $160 เราจะพักที่นี่กันทั้งหมด 4 คืนค่ะ วันแรกเราก็เดินเล่นรอบๆที่พักและเดินเล่นที่หอไอเฟล เราจะต้องเจอกันไปอีกหลายวันเลยนะ


เตรียมตัวไปเที่ยวอเมริกา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส แบบไม่ง้อทัวร์ ต้องรู้อะไรบ้าง

0 comments:

Post a Comment

 

Copyright 2014 All Rights Reserved เตรียมตัวไปเที่ยวอเมริกา สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ฝรั่งเศส แบบไม่ง้อทัวร์ ต้องรู้อะไร by impresstrip.blogspot.com