เที่ยวอเมริกา LA-San Francisco ด้วยตัวเอง

        หลายๆคนกำลังกังวลเรื่องเงินใช่ไหมค่ะ ไม่ยากค่ะ ลองคำนวณเอาว่าตั๋วไป-กลับประมาณกี่บาท และทำค่าใช้จ่ายประมาณการของแต่ละวันว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ง่ายมากๆค่ะ แถมยังเป็นการเตรียมตัวไปในตัวอีกด้วยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ค่าโรงแรม (ซึ่งปกติแล้วมักจะมีอาหารเช้าให้ด้วย) ค่าอาหารกลางวัน -อะไรก็ได้ค่ะ ง่ายๆ ลองคิดดูว่าเมืองนอกส่วนใหญ่เค้าจะทาน เบอเกอร์กัน ลองหาตามอินเตอร์เน็ตดูว่า ราคาเบอเกอร์มื้อนึงประมาณกี่บาท ค่าอาหารเย็น  ค่าน้ำ สำคัญมากค่ะ ค่าเดินทาง รถไฟใต้ดิน รถเมล์ ซื้อเที่ยวเดียวหรือหลายเที่ยวยังไงคุ้มกว่า รายละเอียดปลึกย่อยขนาดนี้ต้องทำการบ้านนิดนึงนะคะ เพราะเราไม่สามารถซื้อตามคนอื่นได้หมดค่ะเพราะไลฟ์สไตลืแต่ละคนต่างกันออกไป อย่าลืมเผื่อบั๊ดเจ็ทไว้สำหรับค่าช็อปปิ้งด้วยนะคะ และซื้อของใช้จำเป็นเช่นผ้าอนามัย ยารักษาโรคเบื้องต้น (เนื่องจากอเมริกา เราจะซื้อได้แต่ยาแก้ปวดพื้นฐานในซุปเปอร์ค่ะ ถ้าเฉพาะทางจริงๆต้องให้แพทย์เป็นคนจ่ายยาให้ค่ะ) หลังจากมีหนังสือเดินทาง (Passport) และได้วีซ่าอเมริกาแล้วก็...

        มาดูกำหนดการคร่าวๆ ของทริปไปเที่ยวอเมริกา LA - Sanfrancisco แบบไม่ง้อทัวร์ ค่ะ
            04 Dec: จากกรุงเทพ ด้วยสายการบินเดลต้าแอร์ เดินทางถึงสนามบิน นาริตะ รอเปลี่ยนเครื่อง สองชั่วโมง  เดินทางต่อจากนาริตะบินไปสนามบิน LAX ถึงเมือง Los Angeles
            05 Dec: ถึงเมือง Los Angeles
            06 Dec: เที่ยว Downtown Hollywood นอน LA
            07 Dec: Universal Studio ใช้เวลาทั้งวัน
            08 Dec: เดินเล่นเพลินๆ ช็อปปิ้งใน LA แวะ China Town
            09 Dec: ออกจาก LA บินไป Sanfrancisco
            10 Dec: เดินเล่นชิลๆทั่ว Downtown ช็อปปิ้ง
            11 Dec: นั่งรถราง ไป Golden gate
            12 Dec: เดินชิลๆ Lombard Stree แวะ Pier 39
            13 Dec: เดินทางกลับ กรุงเทพ ออกจาก Sanfrancisco บินไป สนามบินนาริตะ
            14 Dec: ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

        เริ่มออกเดินทางเช้าตรู่ของวันที่ 4 Dec 2010 Suvarnabhumi Airport ตอนเข้าเช็คอินแจ้งเจ้าหน้าที่ขอเลือกนั่งริมทางเดินค่ะ เพื่อความสะดวกในการเข้าออกห้องน้ำค่ะ เนื่องจากเดินทางไกล ช่วงแรกจาก Bangkok International Airport (BKK) ไป Narita International Airport (NRT)ค่ะ ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 6 ชั่วโมงก็ถึงท่าอากาศยานแห่งชาติของญี่ปุ่น นาริตะ ค่ะ... ก็ลงไป Transit ซึ่งเราก็ยังคงใช้เครื่องลำเดิมบินไปยัง LAX ค่ะ... ระหว่างรอก็เดินสำรวจสนามบินเค้าค่ะ... งวดนี้นั่งนานหน่อย 10 ชั่วโมงกว่าๆ หนะค่ะ... อยู่บนเครื่องก็ทานอาหารอย่างเดียวเลยค่ะ มีเสริฟตลอด ดูหนังบ้าง หลับบ้าง ผ่านไป 10 ชั่วโมงหน่อยๆเครื่องก็ร่อนลงสู่ท่าอากาศยานที่ Los Angeles (LAX)อย่างปลอดภัยค่ะ
  ลงจากเครื่องก็เดินไปรับกระเป๋า จากนั้นก็มารอคิวที่ด่าน Immigration เข้าเมือง.. เค้าก็จะถามหลักว่ามี Food มั๊ย เราก็ไม่มี... (จิงๆมีมาม่า และอาหารกระป๋องนิดส์หน่อย เผื่อมีอะไรผิดพลาด) ไปไหน อยู่กี่วัน ไปยังไง ทำไมถึงเลือกมาที่นี่ มีเงินเกิน 10000 US มั๊ยเราก็บอกไม่มีมีแค่ 1000 US เค้าก็โอเคขอดู Passport แล้วก็เห็นว่าเราเป็นคนไทยยิ้มให้ทักทายกันเอง แล้วสแตมให้ 6 เดือนเย้ๆๆๆๆๆ

       และแล้วก็ได้เวลาที่ต้องเดินทางไปเที่ยวต่อที่ Sanfrancisco เป้าหมายหลักเลยค่ะ มาถึงสนามบิน LAX อีกครั้งก็ตื่นเต้นเหมือนเดิมรีบไปเช็คอินก่อนเลยค่ะ ตอนจะเข้า Boarding Gate... มาดูข้อห้ามสำหรับสิ่งของที่จะบรรจุในกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน ห้ามนำของมีคมทุกชนิดขึ้นเครื่องบิน เช่น มีดพับ, กรรไกรตัดเล็บ, โลหะปลายแหลมทุกชนิด แต่สามารถโหลดใส่กระเป๋าใบใหญ่ได้ค่ะ ของเหลวที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้ เช่น ครีม โลชั่น น้ำหอม ต้องมีปริมาตรไม่เกิน 100 มิลลิลิตร (เจ้าหน้าที่จะพิจารณาปริมาณบรรจุภัณฑ์) ตอนที่จะเข้า Boarding Gate ก็มีเรื่องคือว่ากาแฟขวดสตาร์บัคส์ Frappuccino ที่ซื้อไว้ตั้งใจว่าจะไปทานที่ซานฟราน เจ้าหน้าที่ไม่ให้นำขึ้นเครื่อง เลยต้องทำใจทิ้งไว้ตรงนั้น.... (3 ขวด) หันไปมองแล้วเดินจากไปอย่างเศร้าๆ และคนก่อนหน้าก็โดนยึดมีดพับเล็กๆ แบบสวยงามไม่ให้ขึ้นเครื่องอีกเช่นกัน ขนาดเป็นคนอเมริกาด้วยกัน ยังเข้มงวดขนาดนี้ เลยทำให้ทำใจได้ง่ายหน่อย

       บินจากสนามบิน LAX มาถึง SFO ด้วยสายการบิน Untied Airlines มีเรื่องตื้นเต้นนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากกระเป๋าเดินทางที่เราโหลดเครื่องมาผิดเครื่อง ทำให้เราไม่ได้รับกระเป๋า เช็คกับทางเจ้าที่ของสายการบินอีกนานเลยค่ะ เลยได้ข้อสรุปให้เราทิ้งที่อยู่ของที่โรงแรมและหลังจากกระเป๋ามาถึง จะมีพนักงานของสายการบินนำไปส่งให้ถึงโรงแรมที่พัก (แปลกดีเหมือนกัน สายการบินแ่ห่งชาติ) อย่างที่เรารู้กันสำหรับเมือง ซานฟรานซิสโก เป็นเมืองใหญ่ที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในอเมริกา ตัวเมืองตั้งอยู่บนเขา ดังนั้นพื้นที่ก็จะขึ้นๆ ลงๆ  มีจุดสำคัญให้ดูหลายแห่ง  บ้านเมืองก็สวยงาม ซานฟรานซิสโก ขึ้นชื่อว่าเป็น "City by the Bay" ตั้งอยู่ริมชายฝั่งตะวันตกในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา โอบล้อมด้วยผืนน้ำถึง 3 ด้าน ด้านตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันออกติดอ่าวซานฟรานซิสโก ส่วนด้านเหนือติดช่องแคบโกลเด้นเกท เมืองซานฟรานซิสโกมีรูปร่างเกือบเหมือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็ก มีพื้นที่เพียง 121 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ทั้งยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเต็มไปด้วยเนินลาดชันกว่า 40 เนิน เนินที่สูงที่สุดคือ Mount Davidson ที่มีความสูงถึง 925 ฟุต หลังจากเสียเวลาซ่ะนานที่สนามบินในการตามหากระเป๋าเดินทาง เราก็ออกเดินทางมาสู่โรงแรมที่พักแถวๆ Union Square ก็เริ่มดึกละเข้าที่พัก และออกมาเดินหาอะไรทานก่อนเข้านอน เตรียมพร้อมสำหรับวันรุ่งขึ้นที่จะตะลุยเมืองในฝัน San Francisco

       เช้านี้แพลนแรกคือหาซื้อบัตร MUNI Passport ใช้ในการเที่ยวเมืองSan Francisco ซึ่งเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งสาธารณะครอบคลุมไปทั่ว สามารถท่องเที่ยวได้ครบโดยซื้อบัตรเบ่งใบเดียวเที่ยวทั่วเมือง บัตรMUNI Passport มีแบบ 1, 3 และ 7 วัน ราคา $14, $21 และ $27 ตามลำดับ สามารถขึ้นได้ทั้ง MUNI buses,metro,trains และ cable cars ได้ทั้งหมด ซื้อที่ Visitor information center บริเวณต้นทางของรถรางทุกสายก็ได้ค่ะ ตอนนั้นพัก แถวๆ Union Square ประมาณ 2 block  ปล. รายละเอียดเรื่องราคาสามารถดูได้ที่ http://www.sfmta.com/cms/mfares/passports.htm

       แฮ่ะๆ ถ้าพูดถึงเมืองซานฟรานซิสโก หลายคนคงรู้จักเมืองนี้ดีเพราะเมืองนี้มีชื่อเสียงมาก เพราะมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อย่างสะพาน Golden Gate  และเกาะอัลคาทราซ Alcatraz Island เคยเป็นฉากในภาพยนตร์เรื่อง "The Rock" ใช่แล้วล่ะมาซานฟรานซิสโกต้องไปเที่ยวที่เอ่ยมาแน่นอน แต่ยังมีบางอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของซานฟรานซิสโกที่เรียกได้ว่าถ้าไม่ได้ทำสิ่งนี้ล่ะก็ไม่ถึงซานฟรานซิสโก คือ รถรางซานฟราน (San Francisco Cable Car) นั้นเอง มาถึงทั้งทีต้องไปซ่ะหน่อย

       ขอเล่าเป็นภาพละกันค่ะ ผ่านมา 3 ปีละจำได้ไม่ถนัดหนักดีนะที่มีรูปเก็บไว้ไปดูกันเลยค่ะ

+++น่าเสียดายที่รูปช่วงวันหลังก่อนกลับหายไป เลยทำให้ไม่ได้แชร์ส่วนที่เหลือ ^^+++